ซิลิคอนคราฟท์ขายไอพีโอ - นายมานพ ธรรมสิริอนันต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิลิคอน คราฟท์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SIC เปิดเผยว่า บริษัทดำเนินธุรกิจวิจัยและพัฒนาเพื่อออกแบบไมโครชิพในลักษณะว่าจ้างผลิต ใน 3 กลุ่มหลัก คือ 1. ระบบกุญแจสำรองอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ 2. ไมโครชิพสำหรับลงทะเบียนสัตว์ ที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องในอนาคตตามการบังคับใช้กฎหมายของแต่ละประเทศที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยทางอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะทำให้การใช้ไมโครชิพในสัตว์แพร่หลายมากขึ้น และ 3. กลุ่มสุดท้ายเป็นไมโครชิพสำหรับระบบเข้า-ออกสถานที่ หรือ แอคเซส คอนโทรล และระบบการอ่านข้อมูล
ซึ่งทุกกลุ่มล้วนแต่มีแนวโน้มขยายตัวและเติบโตอย่างต่อเนื่อง อีกทั้ง SIC ยังเป็นบริษัทไทยรายเดียวที่สามารถพัฒนาไมโครชิพสำหรับอุปกรณ์ระบุรหัสประจำตัวสัตว์ด้วยคลื่นวิทยุได้สำเร็จ และในปัจจุบันเป็นผู้นำในตลาดไมโครชิพสำหรับอุปกรณ์ระบุรหัสประจำตัวสัตว์ด้วยคลื่นวิทยุในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค โดยบริษัทได้วางเป้าหมายระยะ 4 ปีข้างหน้านับตั้งแต่ปี 2564 จะมีการเติบโตของรายได้ 2 เท่า 2 เท่า หรือมีรายได้ไม่น้อยกว่า 600 ล้านบาทในปี 2567
โดยในปลายเดือนก.ค.นี้ บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน (ไอพีโอ) จำนวน 100 ล้านหุ้น (ราคาพาร์ 0.50 บาท) ซึ่งคิดเป็น 25% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วที่ 150 ล้านบาท โดยมีบริษัทฟินเน็กซ์ แอดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน และบริษัทหลักทรัพย์ไอร่า จำกัด ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ กลุ่มเทคโนโลยี ส่วนเงินที่ได้จากการขายหุ้นเพิ่มทุน บริษัทจะนำไปซื้อสิทธิบัตรเพื่อมาต่อยอดธุรกิจ และเป็นการย่นระยะเวลาในการวิจัยและพัฒนา ขณะที่บริษัทยังมี 5 ผลิตภัณฑ์ที่บริษัทวิจัยและพัฒนาที่อยู่ระหว่างขอจดสิทธิบัตรและคาดว่าจะได้รับอนุญาตในปีหน้า พร้อมกับจะมีการนำเงินไปลงทุนร่วมกับพันธมิตรเพื่อสนับสนุนธุรกิจของบริษัท ซึ่งจะได้ข้อสรุปในปีนี้ และส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
สำหรับผลการดำเนินงานปี 2562 บริษัทมีรายได้รวม 308.80 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 24.46 ล้านบาท ซึ่งลดลงจากปีก่อนหน้า ส่วนหนึ่งเพราะบริษัทพึ่งพิงรายได้จากต่างประเทศเกือบ 100% ทำให้ในปีที่ผ่านมาบริษัทขาดทุนจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าประมาณ 5 ล้านบาท ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาสแรกของปี 2563 บริษัทมีรายได้ที่ 95.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 72.85 ล้านบาท ในงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า หรือคิดเป็น 30.70% และมีกำไรสุทธิที่ 15.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก งวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรเพียง 2.39 ล้านบาท หรือคิดเป็น 552.3% ซึ่งเป็นผลมาจากไตรมาสแรกบริษัทมีรายได้ในกลุ่มระบบลงทะเบียนสัตว์ ส่วนกลุ่มที่ 2 เป็นรายได้จากกลุ่มระบบกุญแจสำรองฯ
ที่มา: khaosod
